“พล.อ.ณัฐพล” ผิดหวัง “เตีย เซยฮา” แถลงกล่าวหาไทยยิงก่อน ทั้งที่หลักฐานชัดทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ย้ำกำลังพลเรื่องกฎการใช้กำลัง ตอบโต้ตามระดับได้ทันที
วันที่ 7 ธ.ค. 2568 พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเกิดการปะทะชายแดนไทยกัมพูชาบริเวณจังหวัดศรีสะเกษ ว่า ฝ่ายทหารกัมพูชา ได้ยิงอาวุธปืนเล็กโจมตีฝ่ายทหารไทย บริเวณฐาน ภูผาเหล็ก-ฐานเพียงฟ้า ทำให้กำลังพล ได้รับบาดเจ็บถูกยิง 2 นาย บาดเจ็บที่ขาซ้าย 1 นาย ส่วนอีก 1 นาย ถูกยิงที่หน้าอก แต่ใส่เสื้อกันกระสุน โดยฝ่ายไทยได้ตอบโต้ด้วยปืนเล็ก ปัจจุบันสถานการณ์ได้ยุติลงแล้ว ทั้งนี้ พลโท วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา
เมื่อถามว่า พล.อ.เตีย เซยฮา รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กัมพูชา แถลง กล่าวหาว่าฝ่ายไทยยิงก่อน โดยฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ตอบโต้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังจากคำแถลงการณ์ รมว.กลาโหมกัมพูชา ที่รับฟังรายงานโดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด เพราะฝ่ายไทยได้เตือนไปหลายครั้งแล้วว่า สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาในระดับนโยบายได้รับรายงานไม่เป็นความจริง ที่ฝ่ายกัมพูชาระบุว่า ยึดมั่นในข้อตกลงตามปฏิญญา ที่ได้ลงนามกันไว้ที่ประเทศมาเลเซีย แต่ในความเป็นจริงทหารกัมพูชาที่อยู่แนวหน้ามีการยั่วยุฝ่ายไทยมาโดยตลอด ฝ่ายไทยวางรั้วลวดหนามสกัดกั้นเพื่อไม่ให้เข้ามาวางทุ่นระเบิด แต่ทหารกัมพูชา ก็จะลักลอบขโมยรั้วลวดหนาม ทำเช่นนี้เสมอ จนกระทั่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทหารไทยได้รับบาดเจ็บถึง 2 คน แต่ทาง รมว.กลาโหมกัมพูชา มาแถลงว่า ไม่มีการยิงตอบโต้
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 (22MSP) ณ สำนักงานองค์การสหประชาชาติ หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ถ้าจะมีส่วน คือทำให้รวน สร้างภาพ ว่าฝ่ายไทยไปรังแกกัมพูชา เพื่อลดน้ำหนักการประชุม แต่วันนี้มีหลักฐานแล้วว่า ทหารไทยถูกยิงถึง 2 คน ทางกัมพูชาจะไม่มีการยิงตอบโต้ได้อย่างไร
...
พล.อ.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้กำลังพล ปฏิบัติหน้าที่โดยความระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัย โดยการปฏิบัติก็ขอให้ยึดกฎการใช้กำลังสามารถตอบโต้ได้ตามระดับได้ทันที ซึ่งทาง ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหาร ดูแลสถานการณ์อยู่ ส่วนประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ให้อพยพออกจากพื้นที่ จะกลับได้เมื่อไหร่นั้น ให้รอดูสถานการณ์ และประเมินท่าทีกัมพูชา หากยังไม่ปลอดภัย ก็ยังไม่สามารถกลับได้