“จุลพันธ์” จี้ “พรรคประชาชน-ภูมิใจไทย” รับผิดชอบทั้งคู่ หลังฉีก MOA ชิงยุบสภา ลั่นจากนี้ไม่ถามหาความจริงใจรัฐบาล ขอให้ทำตามกฎหมาย หากเลื่อนเลือกตั้งอ้างเหตุชายแดนก็ให้ลองดู เชื่อประชาชนไม่รอ


เมื่อเวลา 08.49 น. วันที่ 12 ธันวาคม 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถึงกรณีการยุบสภาผู้แทนราษฎรของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวานนี้ (11 ธันวาคม 2568) ว่า การตัดสินใจยุบสภาฯ ของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการขัดต่อหลักประชาธิปไตยและกระบวนการธรรมชาติ เมื่อเข้าสู่ดีลนี้กันแล้วก็จะมีแต่ความผิดพลาด สุดท้ายก็ปรากฏชัด ซึ่งพรรคเพื่อไทยสงสัยมาตลอด ในความจริงใจของรัฐบาลเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่รู้พรรคประชาชนเพิ่งเห็นหรืออย่างไร เพราะเราพยายามบอกมาตั้งแต่ต้น จนสุดท้ายก็ปรากฏชัดในรัฐสภาที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยกมือให้ ด้วยเหตุผลว่าไม่สามารถคุยกับ สว. ได้ หากจะมีคนเชื่อก็คงมีแต่พรรคประชาชน เพราะพรรคการเมืองอื่นรู้อยู่แล้วว่ากระบวนการของ สว.กลุ่มนี้ มีความเชื่อมโยงกับพรรคภูมิใจไทยอย่างไร ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องประหลาด

ส่วนที่พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยโยนกันไปมานั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ก็ต้องรับผิดชอบกันทั้งคู่ แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยขอแสดงความผิดหวังต่อรัฐบาล เพราะในสภาวะประเทศแบบนี้ ทั้งการปะทะชายแดน และน้ำท่วมที่ยังแก้ไขไม่เสร็จ รัฐบาลกลับปัดทิ้งภาระความรับผิดชอบ เลือกที่จะหนีการตรวจสอบด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วยุบสภาฯ ทิ้งให้ประชาชนต้องเดือดร้อนต่อไป แม้จะมีกลไกของรัฐในการตรวจสอบ และทหารที่รับผิดชอบสถานการณ์ชายแดน

...

ขณะที่ความผิดหวังที่ 2 ที่พรรคเพื่อไทยรู้สึกคือพรรคประชาชน เพราะตั้งแต่การคุยกันกับหัวหน้าพรรคประชาชน มีการขอให้ชะลอการยื่นซักฟอก มาตรา 151 (อภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ) แต่ยื่นข้อเสนอว่าหากลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2 แล้วแพ้ จะเชื่อว่าความจริงใจของรัฐบาลไม่มี และจะมาร่วมกับพรรคเพื่อไทยในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น ตนมองว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่พรรคประชาชนไว้วางใจพรรคภูมิใจไทยเป็นการปล่อยหนูเข้าป่า เปิดโอกาสให้รัฐบาลยุบสภาฯ หนีโดยไม่ทันได้ตรวจสอบ

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อไป ตนไม่แน่ใจว่าพรรคประชาชนตามเกมพรรคภูมิใจไทยไม่ทัน หรือคิดว่าวิธีการนี้จะดีกว่าหรือไม่ พรรคประชาชนอยากจะให้ยุบสภาฯ เพื่อเลือกตั้ง แทนการตรวจสอบรัฐบาล เพราะหากตรวจสอบจะมีหลายเรื่อง ทั้งเขากระโดง การฮั้ว สว. การทุจริตคอร์รัปชัน MotoGP ซึ่ง 2 เดือนที่ผ่านมาคนไทยไม่ได้อะไรเลย แต่คนที่ได้เต็มๆ คือพรรคภูมิใจไทย ที่ได้สั่งสมกำลังความแข็งแกร่งของกลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่สำคัญคือได้โยกย้ายข้าราชการเตรียมไว้สำหรับการเลือกตั้ง แต่คนไทยได้รัฐบาลบริหารประเทศล้มเหลว ตั้งแต่น้ำท่วมยันชายแดน และขอให้ทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนต้องรับผิดชอบทั้งคู่

ผู้สื่อข่าวถามว่าการยุบสภาฯ ในสถานการณ์ตอนนี้ถือว่าเป็นการเตะหมูเข้าปากหนูหรือไม่ นายจุลพันธ์ ตอบว่า ทางพรรคเพื่อไทยเตรียมพร้อมเลือกตั้งแล้ว วันนี้ขอแจ้งกับประชาชนว่าอย่าเพิ่งสิ้นหวัง และจะใช้วิธีการเลือกตั้งนำประเทศกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

ส่วนการเลือกตั้งในครั้งนี้อาจจะมีกระแสคลั่งชาติจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชานั้น นายจุลพันธ์ ระบุ ไม่ว่ากระแสใดก็ต้องฝ่าฟันไป และขอย้ำถึงจุดยืนที่มั่นคงของพรรค ในประเด็นคำถามว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาจะกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ นายจุลพันธ์ ยอมรับว่ามีการพูดคุยกันว่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปในกรณีที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้พร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อวานนี้ (11 ธันวาคม) สส.พรรคภูมิใจไทยพยายามพูดถึงเรื่องนี้ทั้งวัน

ทั้งนี้ ขอเรียนว่ากลไกของรัฐธรรมนูญไม่มีอะไรที่ทำให้สะดุดหรือติดขัด รัฐธรรมนูญกำหนดชัดต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน โดยตามกำหนดแล้วอาจจะเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ หรือ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เพื่อให้ทันต่อกรอบเวลาและคำถามประชามติ ก็คาดว่าจะเป็นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ หากประกาศให้มีการเลือกตั้งทั้งประเทศแล้ว กฎหมายการเลือกตั้งก็กำกับไว้ว่า ในกรณีที่พื้นที่ใดมีเหตุฉุกเฉินหรือจำเป็น เช่น สงคราม มีการปะทะ หรือภัยพิบัติ เหตุฉุกเฉินเหล่านั้นจะสามารถทำให้หน่วยการเลือกตั้งของพื้นที่เลื่อนการเลือกตั้งเฉพาะพื้นที่นั้นได้ จะไม่กระทบต่อการเลือกตั้งภาพรวมทั้งหมดของประเทศ

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เผยต่อไป ตนยังมองไม่ออกว่ารัฐบาลมีความประสงค์ที่จะดำเนินการเลือกตั้งอย่างไร จะใช้ช่องกฎหมายใด ซึ่งต่อให้มีการดำเนินการจริง ตนก็ขอย้ำว่าการเลือกตั้งสามารถเดินหน้าต่อได้ตามกฎหมาย แต่หากพรรคภูมิใจไทยจะทำก็เรียนเชิญหาช่องทางทางกฎหมายทำเลย แต่มันคือความพังพินาศของท่าน เพราะประชาชนจะไม่รอด้วย

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีการตั้งข้อสงสัยหรือไม่กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อาจจะเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใด นายจุลพันธ์ ตอบว่า ในประเด็นนี้ขอทุกคนอย่าคิดมาก นาทีนี้ควรส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทหารชายแดนและประชาชนในพื้นที่ที่อพยพไปยังศูนย์ลี้ภัยแล้ว พรรคเพื่อไทยก็พร้อมให้ความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าการยุบสภาฯ จะมีผลต่อการปราบสแกมเมอร์ให้หยุดชะงักหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้การดำเนินการของภาครัฐก็ดำเนินการต่อไปอย่าให้สะดุดหรือติดขัด ส่วนของรัฐบาลรักษาการก็ดำเนินการบริหารได้ เมื่อมีรัฐบาลใหม่ก็ทำงานต่อ ไม่ได้ทำให้การแก้ไขปัญหาใดๆ ยุติลง โดยผู้สื่อข่าวถามต่อหลังจากนี้จะมองเห็นความจริงใจสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ในเรื่องการทำคำถามประชามติหรือไม่ นายจุลพันธ์ บอกว่า ไม่มีปัญหาอะไร สุดท้ายแล้วสมาชิกสภาต้องคุยกัน เพื่อเร่งให้มีการผ่านญัตติคำถามที่ 1 ว่าเห็นควรที่จะมีการให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ได้เร่งผ่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาถามถึงความจริงใจของรัฐบาล เมื่อมีคำถามประชามติส่งไปจากรัฐสภาไปยังรัฐบาล ตามกฎหมายรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ไม่ใช่ถามหาความจริงใจ เพราะว่าความจริงใจของเขาหมดไปตั้งแต่เข้าสู่ MOA และการลงมติมาตรา 256/28 เมื่อวานนี้.