สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศมาเลเซียยังคงอยู่ในระดับวิกฤต โดยมีรายงานล่าสุดว่ามีผู้ประสบภัยรวมถึง 20,146 คน ต้องเข้าพักในศูนย์พักพิงชั่วคราวจำนวน 119 แห่งใน 8 รัฐทั่วประเทศ

รัฐปาหังได้กลายเป็นรัฐล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในเช้าวันนี้ ขณะที่รัฐสลังงอร์มีจำนวนผู้อพยพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย ณ เวลา 08.00 น. มีผู้ประสบภัย 2,697 คน จาก 740 ครอบครัว เพิ่มขึ้นจาก 1,732 คนเมื่อคืนที่ผ่านมา

ในรัฐกลันตัน จำนวนผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้นเป็น 9,959 คน จาก 3,643 ครอบครัว โดยมีการเปิดศูนย์พักพิงเพิ่มขึ้นเป็น 40 แห่งใน 4 เขตที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ โกตาบารู, ตุมปัต, บาจก และปาซีร์ปูเตะห์

ขณะเดียวกัน ระดับน้ำในแม่น้ำโกลกที่เมืองรันเตาปันจังอยู่ที่ 8.55 เมตร สูงกว่าจุดเตือน 0.55 เมตร และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

รัฐเปอร์ลิสมีจำนวนผู้อพยพเพิ่มขึ้นเป็น 2,694 คน จาก 795 ครอบครัว และอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง 13 แห่ง ขณะที่รัฐปาหังมีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 1 แห่ง สำหรับผู้ประสบภัย 23 คน

นอกจากนี้ รัฐเกดาห์มีผู้ประสบภัยเพิ่มเป็น 1,632 คน จาก 525 ครอบครัว อพยพไปที่ศูนย์พักพิง 12 แห่ง ในเขตคูบังปาซูและคูลิม

รัฐเปรักมีจำนวนผู้อพยพเพิ่มเป็น 2,678 คน จาก 845 ครอบครัว ขณะที่ในรัฐปีนังจำนวนผู้อพยพลดลงเล็กน้อยเป็น 366 คน จาก 96 ครอบครัว

รัฐตรังกานูมีสถานการณ์ดีขึ้น โดยจำนวนผู้อพยพลดลงเหลือ 97 คน จาก 37 ครอบครัว และระดับน้ำในแม่น้ำ 51 สถานีทั่วรัฐอยู่ในระดับปกติ

ทางการได้เตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมอพยพหากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งจากการตกของฝนต่อเนื่องในหลายพื้นที่