ผู้แทนถาวรกัมพูชาประจำสหประชาชาติ เข้าพบทาเทียน่า วาโลวายา ผู้อำนวยการใหญ่สหประชาชาติ เจนีวา กล่าวหาสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เกิดจากทหารไทยรุกล้ำ-ละเมิดสิทธิพลเรือน

สำนักข่าวขแมร์ไทสม์กระบอกเสียงของรัฐบาลกัมพูชา เปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตดารา อิน ผู้แทนถาวรกัมพูชาประจำสหประชาชาติในเจนีวา ได้เข้าพบ นางทาเทียนา วาโลวายา ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานสหประชาชาติประจำกรุงเจนีวา (UNOG) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน เพื่อรายงานสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยทูตดารา อิน ระบุว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังคงเปราะบางอย่างยิ่ง พร้อมกล่าวอ้างว่ามีการรุกล้ำของทหารไทย, การใช้กำลังข่มขู่พลเรือน, และการปิดล้อมหมู่บ้านบางแห่ง

เขายังระบุว่าไทย ไม่ยอมส่งตัวทหารกัมพูชา 18 นายกลับประเทศ ตามที่เคยให้คำมั่นไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น

ขณะเดียวกันฝ่ายกัมพูชายังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องเหตุระเบิดจากกับระเบิดใหม่ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน โดยยืนยันว่าเป็น กับระเบิดตกค้างจากยุคสงคราม ไม่ใช่การวางกับระเบิดใหม่

ทูตกัมพูชากล่าวว่า ประเทศมีผลงานด้านการกู้ทุ่นระเบิดที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ จึงไม่มีเหตุผลหรือผลประโยชน์ใดที่กัมพูชาจะวางทุ่นระเบิดใหม่ พร้อมระบุว่าข้อกล่าวหานี้ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการระงับข้อตกลงสันติภาพ และเพิ่มความตึงเครียด ไม่เพียงเท่านั้นทูตกัมพูชายังรายงานเหตุร้ายสองกรณีที่เกิดในพื้นที่พิพาท ได้แก่ เหตุยิงเมื่อ 12 พ.ย. โดยอ้างว่าทหารไทยยิงชาวกัมพูชาหนึ่งคนเสียชีวิต และทำให้บาดเจ็บอีกสามคน และเหตุล่วงละเมิดทางเพศเมื่อ 15 พ.ย. โดยกล่าวหาว่าทหารไทย 7 นายข่มขืนแรงงานกัมพูชาข้ามแดน ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง

...

ท้ายที่สุด ทูตกัมพูชาขอให้สหประชาชาติ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสนับสนุนความพยายามแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี.


ที่มา :Khmertimes

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ ไทยกัมพูชา