"อัจฉริยะ" ยื่นหนังสือหลักฐาน ร้องจเรตำรวจ ฟันกรณีซื้อขาย-ตำแหน่งโยกย้ายตำรวจ ตั้งข้อสังเกตกรณีเรือนจำฯ ปล่อยสาวเข้ามาบำเรอนักโทษจีนเทา
วันที่ 21 พ.ย. 2568 ที่สำนักงานจเรตำรวจ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือร้องประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ ก.ร.ตร. ในกรณี ผบ.ตร.กับพวกเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค4
นายอัจฉริยะ เผยว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันกับนายตำรวจระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้ยังมีอำนาจสูงสุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งยังเกี่ยวพันกับการแอบอ้างบุคคลชั้นสูงที่อาจกระทบกับเบื้องสูง เพราะฉะนั้นการที่จะออกมาทำเรื่องนี้ต้องทำทุกมิติ ไม่ว่าจะการร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ปี2567 รวมไปถึงคนจ่ายเงินซื้อตำแหน่งนายตำรวจ 4 นาย ซึ่งต้องพิจารณาเองว่าจะเป็นพยานหรือผู้ต้องหา สำหรับพยานที่นำมายื่นให้ ก.ร.ตร. ก็เป็นหลักฐานชุดเดียวกันกับที่เคยยื่นร้องทุกข์คดีอาญากับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีโทษสูงถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต
นายอัจฉริยะ ยังเผยถึงกรณีที่มีการเปิดโปงเรื่องภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพชาวจีนเทา จ้างนางแบบจากต่างประเทศเข้ามาในเรือนจำ โดยนายอัจฉริยะ เปิดเผยว่าไม่คิดว่าจะกล้าจัดฮาเร็ม เพราะพื้นที่ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมีคำว่าพิเศษ การที่จัดให้มีสาวๆ ส่งตรงมาจากเมืองนอก และมาบำเรอกามให้นักโทษจีน หรือนักโทษวีไอพี ไม่ใช่แค่ตัวผู้ต้องหาแต่อาจจะมีผู้คุมหรือใครบางคนที่อยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพร่วมด้วย
จากการที่ตัวเองเคยเข้าไปในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ การที่จะเอานักโทษออกมาจากเรือนจำในวันอาทิตย์ มันไม่ใช่เรื่องง่าย เขาจะต้องเบิกตัวตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งการที่มีนางแบบจากต่างประเทศ และนำเข้าห้องของผู้บัญชาการเรือนจำเรื่องนี้ไม่ยาก แต่การที่นำไปอยู่ในห้องเชือด ให้นักโทษมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก และเป็นเรื่องที่อัปยศอดสูที่สุดในสถานที่กักขังผู้ต้องหา ทั้งที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี มองว่าควรจะย้าย หรือไม่ก็ต้องไล่ออกจากข้าราชการ และต้องติดคุกด้วย เราต้องทำความจริงให้ปรากฏ ในเรือนจำมีกล้องวงจรปิด การที่จะเข้าออกหาหลักฐานได้ไม่ยาก และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่บัดซบมากๆ พูดไปที่ไหนก็อาย
...
ขณะนี้เรากำลังทำความสะอาดบ้านเมือง คิวต่อไปจะเป็นกรมศุลกากร ที่เชื่อว่ามีการเรียกรับสินบนเป็นพันล้านบาทต่อเดือน ทำให้รัฐบาลเสียหายจากการไม่ได้รับภาษีมากกว่าแสนล้านบาทต่อปี โดยเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรหลายด่าน ที่เรามีหลักฐานอยู่ในมือ รวมถึงผู้บริหารระดับสูงบางคนที่เรามีหลักฐานเส้นทางการเงินไปถึง และอยู่ในมือของ ป.ป.ช. แล้วบางส่วน
เรามีสมุดเล่มแดงเล่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการบริการคนจีนสีเทาตั้งแต่สมัยตู้ห่าว และมีการจัดปาร์ตี้อยู่ที่สำนักงานข้าราชการแห่งหนึ่ง เราจะไล่ทีละหน่วยงานในปี 2569 จะเป็นปีที่ล้างบางระบบข้าราชการทุกแห่งในประเทศไทยที่มีการทุจริต และอยากจะฝากถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่า ตัวเองยินดีร่วมมือกับนายกรัฐมนตรีในการปราบปรามการทุจริต ซึ่งเรามีชื่อ มีข้อมูล มีภาพถ่าย มีหลักฐานครบถ้วนทุกหน่วยงาน ถ้าหากท่านอยากได้เอาไปใช้ในการบริหารประเทศในการปราบปรามทุจริต และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำ