สำนักศิลปากรที่ 10 ยืนยันปราสาทตาควายซ่อมแซมได้ หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ต้องรอสถานการณ์สงบเสียก่อน


วันที่ 11 ธันวาคม 2568 นายทศพร ศรีสมาน ผอ.สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ซึ่งรับผิดชอบดูแลโบราณสถาน โบราณวัตถุ เขตจังหวัดอีสานใต้ประกอบด้วย สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีที่ปราสาทตาควายถูกทหารกัมพูชาใช้เป็นบังเกอร์เพื่อสู้รบกับฝั่งทหารไทยและได้รับความเสียหายจากการโจมตี

โดยนายทศพร เปิดเผยว่า เท่าที่ดูภาพปราสาทตาควาย สภาพปัจจุบันนี้ส่วนยอดของปราสาทนั้นพังทลายลงมาแล้วจากความรุนแรงของสงครามที่มีการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการบูรณะซ่อมแซมนั้นทางกรมศิลปากรได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบโบราณสถานที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากภาวะการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา เพียงแต่ในตอนนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนนั้นยังไม่สงบจึงยังเข้าไปตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งถ้าสถานการณ์สงบแล้วทางคณะกรรมการจึงจะสามารถเข้าไปตรวจสอบโดยละเอียดและนำมาประเมินในการบูรณะซ่อมแซม เท่าที่เห็นจากข่าวนั้นคาดว่าน่าจะมีปราสาทตาเมือนธม ปราสาทคนาที่คาดว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากการปะทะในครั้งนี้

...

นายทศพร ยังเปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับปราสาทตาควายนั้นสามารถบูรณะซ่อมแซมให้กลับมาเหมือนเดิมได้เพราะเท่าที่ผ่านมานั้นโบราณสถานหลายแห่งที่อยู่ในความรับผิดชอบนั้นก็พังทลายมากกว่าปราสาทตาควายเสียอีก ซึ่งขั้นตอนในการบูรณะก็เหมือนกับการบูรณะโบราณสถานอื่นๆ คือเริ่มตั้งแต่การขุดค้น การทำแบบ การทำรูปแบบรายการเพื่อการบูรณะและก็นำไปสู่ขั้นตอนการบูรณะซ่อมแซม จึงขอยืนยันว่าการบูรณะซ่อมแซมปราสาทตาควายนั้นสามารถทำได้แต่ต้องรอให้สถานการณ์สงบเสียก่อน.