พรรคเป็นธรรม ชง “นายกฯ อนุทิน” เคาะ 3 มาตรการฟื้นฟูหาดใหญ่-ภาคใต้ ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ-คณะทำงานออกแบบระบบเมือง จัดระบบรองรับภัยพิบัติป้องกันระยะยาว
เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล พรรคเป็นธรรม (ปธ.) นำโดย นายปิติพงษ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เสนอมาตรการฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่และภาคใต้ ระบุว่า ตามที่มีเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งก่อความเสียหายแก่ประชาชนในจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง พรรคเป็นธรรมมีความห่วงใยต่อประเด็นการฟื้นฟูและการจัดระบบเตรียมการสำหรับการป้องกันภัยน้ำท่วมระยะยาว จึงขอเสนอมาตรการเพิ่มเติม 3 ประการ เพื่อการฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ และการจัดระบบรองรับภัยพิบัติทั้งในพื้นที่เทศบาลเมืองหาดใหญ่ และพื้นที่ทุกจังหวัดในภาคใต้ ดังนี้
1. รัฐบาลควรจัดตั้ง “คณะทำงานเฉพาะกิจว่าด้วยการฟื้นฟูเศรษฐกิจเทศบาลนครหาดใหญ่” เพื่อคลี่คลายปัญหาความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน ทั้งในกรณีการช่วยฟื้นฟูกิจการในทุกระดับ ระบบการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการฟื้นฟู ระบบความช่วยเหลือภาระหนี้สินของประชาชน โดยคณะทำงานชุดนี้จะต้องประกอบด้วยผู้มีอำนาจตามภารกิจเพื่อเร่งผลักดันการดำเนินการให้เป็นรูปธรรมในการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนภายในเวลาที่กำหนด
2. รัฐบาลต้องจัดตั้งคณะทำงานว่าด้วยการออกแบบระบบเมืองเพื่อรองรับภัยพิบัติและการจัดการผังเมืองหาดใหญ่ รองรับอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการออกแบบระบบการรับมือภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ ทั้งระบบข้อมูลที่ฉับไวแม่นยำ ระบบการเตือนภัยและการอพยพที่มีขั้นตอนอย่างชัดเจน ระบบสาธารณสุขในช่วงภัยพิบัติ เป็นต้น ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวมีความสำคัญเร่งด่วนอย่างมากเพราะภาคใต้ ยังไม่พ้นฤดูฝนในช่วงเดือนธันวาคม อาจเกิดฝนตกต่อเนื่องจนนำมาสู่ภัยน้ำท่วมภาคใต้อีกครั้ง ฉะนั้นการเร่งตั้งคณะทำงานชุดดังกล่าวนี้มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่ง
...

3. รัฐบาลต้องสั่งการที่ชัดเจนให้ทุกจังหวัดในภาคใต้เตรียมพร้อมระบบการรองรับภัยน้ำท่วมซึ่งจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ โดยคำสั่งการดังกล่าวต้องเป็นคำสั่งเร่งรัดปฏิบัติการ เพราะเหตุการณ์ฝนตกหนักในภาคใต้ จะเกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงขึ้น อีกทั้งรัฐควรส่งเสริมระบบการกู้ภัยภาคประชาชน องค์กรต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำงานได้รวดเร็วมีประสิทธิภาพ จึงควรอย่างยิ่งที่รัฐจะต้องส่งเสริมกลไกจัดการภัยพิบัติภาคประชาชนให้เกิดขึ้นจริง
นายปิติพงษ์ ระบุในช่วงท้ายว่า การตั้งคณะทำงานทั้ง 3 ชุดจะเป็นการวางรากฐานที่สำคัญของการขับเคลื่อนให้เกิดกลไกรองรับภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามียื่นหนังสือครั้งนี้มี นายพันศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เป็นตัวแทนมารับ.
