เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันการพบร่างของ นายเคลาดิโอ เนเวส วาเลนเต วัย 48 ปี ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุกราดยิงสะเทือนขวัญที่มหาวิทยาลัยบราวน์ เสียชีวิตอยู่ภายในอาคารเช่าห้องเก็บของแห่งหนึ่งในเมืองเซเลม รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ปิดฉากการหลบหนีนานเกือบสัปดาห์
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อมือปืนบุกเข้าไปในอาคารวิศวกรรม Barus & Holley ของมหาวิทยาลัยบราวน์ ขณะที่นักศึกษากำลังสอบปลายภาค และเปิดฉากยิงใส่ฝูงชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ เอลลา คุก วัย 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 และ มูแฮมหมัด อาซิซ อูมูร์โซคอฟ วัย 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ส่วนผู้บาดเจ็บ 9 ราย: โดย 6 รายยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
จากการสืบสวนพบว่า นายวาเลนเตเป็นชาวโปรตุเกส และเคยเป็นนักศึกษาปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์ที่มหาลัยบราวน์ในช่วงปี 2000-2001 แต่ปัจจุบันไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับมหาวิทยาลัย
เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหาร ศ.นูโน เอฟ โกเมซ ลูเรโร อาจารย์ประจำสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) วัย 47 ปี ที่บ้านพักในเมืองบรู๊คไลน์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยพบว่าทั้งคู่เคยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันในโปรตุเกสช่วงปลายทศวรรษ 1990 ซึ่งอาจเป็นชนวนเหตุของความแค้นในอดีต
ตำรวจแกะรอยนายวาเลนเตจากภาพวงจรปิดและข้อมูลการเช่ารถ จนพบรถต้องสงสัยจอดอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุทั้งที่มหาลัยบราวน์และบ้านของอาจารย์ MIT เจ้าหน้าที่ FBI ระบุว่าผู้ต้องสงสัยมีความเชี่ยวชาญในการอำพรางร่องรอย และใช้โทรศัพท์ที่ยากต่อการติดตาม
สุดท้ายเจ้าหน้าที่พบร่างของเขาเสียชีวิตจากการ "ยิงตัวตาย" โดยข้างกายพบกระเป๋าสะพายและอาวุธปืน 2 กระบอก รวมถึงหลักฐานสำคัญภายในรถที่เชื่อมโยงเขาเข้ากับที่เกิดเหตุทุกแห่ง
...
แม้ตัวผู้ก่อเหตุจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่อัยการรัฐและ FBI ยืนยันว่าการสืบสวนจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากยังมีประเด็นเรื่องแรงจูงใจที่แท้จริงในการก่อเหตุที่ยังไม่แน่ชัด โดย FBI ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 500 นายเพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงและสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ให้กระจ่างที่สุด.
ที่มา BBC