กัมพูชาตอบโต้เดือด บทวิเคราะห์ของสำนักข่าว CNA ที่ระบุว่ากัมพูชาไม่จริงใจในการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ ระบุเนื้อหาสร้างความเข้าใจผิด และเป็นเพียงมุมมองความเห็นของผู้เขียน

รัฐบาลกัมพูชาออกมาปฏิเสธเนื้อหา ในบทวิเคราะห์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของสำนักข่าว CNA เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่มุ่งวิจารณ์ความพยายามของกัมพูชาในการปราบปรามเครือข่าย ออนไลน์สแกม – คอลเซนเตอร์ – อาชญากรรมข้ามชาติ โดยกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาแถลงว่า บทความดังกล่าวสร้างความเข้าใจผิด และเป็นเพียงมุมมองอารมณ์และความเห็นทางการเมืองของผู้เขียน

บทความที่เป็นประเด็น เขียนโดย เนียร์มัล โฆช นักข่าวอาวุโสของ Straits Times ผู้มีประสบการณ์กว่า 30 ปี โดยระบุว่า แม้กัมพูชาจะมีการบุกทลายหลายครั้ง แต่ภาพที่เห็นอาจหลอกตา และอุตสาหกรรมหลอกลวงออนไลน์ยัง ฝังรากลึกในประเทศ

โฆษกกระทรวงมหาดไทยยังโต้แย้งว่า บทความดังกล่าวไม่สะท้อนความจริงและไม่เคารพความพยายามของเจ้าหน้าที่ทั้งในประเทศและต่างชาติ” พร้อมย้ำว่ากัมพูชาไม่ใช่ประเทศเดียว ที่เผชิญปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาคนี้

โฆษกยังระบุด้วยว่า แม้แต่ประเทศพัฒนาแล้วก็เผชิญปัญหาเดียวกัน และสื่อ CNA เองก็เคยผลิตสารคดีเชิงสืบสวนเกี่ยวกับอีกประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ถูกจัดว่าเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งตอกย้ำว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นหลายแห่งไม่ใช่เพียงกัมพูชา

รัฐบาลกัมพูชายังอ้างว่าได้ดำเนินการตามแผนปราบปราม ศูนย์สแกม – คอลเซนเตอร์ – อาชญากรรมเทคโนโลยี อย่างจริงจังและโปร่งใส โดยเปิดเผยสถิติล่าสุดว่าในปี 2023: จับกุมและเนรเทศชาวต่างชาติ 283 คน, ปี 2024: เพิ่มเป็น 2,982 คน และปีนี้ (2025): จับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงทางเทคโนโลยีแล้ว 24 คดี

...

ในจำนวนนี้ 13 คดีมาจากการสืบสวนโดยตรง, 11 คดีร่วมมือกับต่างประเทศ, ผู้ต้องหาต่างชาติที่ถูกคุมตัวปีนี้: 1,859 คน และส่งฟ้องศาลแล้ว 11 คดี รวมผู้ต้องหา 148 ราย รวมถึงหัวหน้าแก๊งและกลุ่มเสี่ยงสูง

รัฐบาลย้ำว่า การปราบปรามยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และให้ความร่วมมือใกล้ชิดกับหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ รวมถึงประเทศอื่น ๆ ที่กำลังเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เหมือนกัน โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนกัมพูชาและชาวต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ในภูมิภาค.


ที่มา : CNA

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ กัมพูชา