นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน
จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น จึงได้สั่งการกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลและสัมภาระ และยานพาหนะที่เข้า-ออกพื้นที่ ตลอดจนจัดกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ในการรักษาความปลอดภัยให้พร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะท่าอากาศยานบุรีรัมย์ให้ปรับเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังด้านการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด

...
และให้เร่งประสานการข่าวกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ในการติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร
และฝ่ายปกครอง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ และประชาชนในพื้นที่ รวมถึงกำชับให้ท่าอากาศยานอำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนในทุกด้าน

ด้านนายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) กล่าวว่า ท่าอากาศยานในสังกัด ทย. ทุกแห่งมีความพร้อมสูงสุด ในการเตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉินตามแผนเผชิญเหตุ และแผนฉุกเฉินของสนามบิน ตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อติดตามและเตรียมความพร้อมรองรับสาธารณภัยและภัยความมั่นคง กรมท่าอากาศยาน เพื่อติดตามสถานการณ์และรายงานข้อมูลและประสานงานระหว่างศูนย์ปฏิบัติการย่อยของแต่ละท่าอากาศยาน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เพื่อเฝ้าระวัง และรายงานข้อมูลต่อกระทรวงคมนาคม

ซึ่งในขณะนี้ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีความพร้อมทั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวก และเจ้าหน้าที่สำหรับให้บริการประชาชน ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ขอให้เผื่อเวลาในการเดินทางมายังท่าอากาศยาน หากผู้โดยสารต้องการสอบถามรายละเอียดการเดินทาง สามารถติดต่อได้ที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ หมายเลขโทรศัพท์ 044-666334 หรือทาง เฟซบุ๊ก ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ https://www.facebook.com/buriramairportfanpage
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม